24 มีนาคม 2558

เรื่องเล่าแมวๆ - ความรักที่ยิ่งใหญ่ของแม่แมว‬ สการ์เล็ต‬



web page hit counter









 


แม่แมวใจเด็ด ฝ่าเปลวเพลิงช่วยลูกน้อย


ไปอ่านเจอมาครับ อ่านแล้วซึ้งมาก ก็เลยเอามาฝากเพื่อนๆทาสแมวทั้งหลาย บางคนอาจจะเคยได้ยินเรื่องนี้มาแล้ว แต่ขอเอามาฝากอีกทีละกันค่ะ ชอบมากก คนที่เล่าเรื่องนี้เป็นคนที่ช่วยชีวิตแม่แมวและลูกแมวไว้....





ผมทำงานเป็นพนักงานดับเพลิงในนิวยอร์ก
บางครั้งอาชีพนี้ก็ทำให้หดหู่ใจเพราะคราใดที่บ้านถูกไฟเผาผลาญ
คุณจะหัวใจแหลกสลายไปด้วย
พนักงานดับเพลิงเจอแต่เรื่องน่าสพรึงกลัว
และบางครั้งก็ต้องเจอความตาย แต่วันที่ผมเจอเจ้าแมว "สการ์เล็ต"
เป็นอีกเรื่องหนึ่งและมันเป็นเรื่องของชีวิตและความรัก




วันนั้นเป็นวันศุกร์ เดือนมิถุนายน 1995 เรารุดออกไปดับเพลิง ตามที่ได้รับแจ้งตั้งแต่เช้าตรู่ว่ามีไฟไหม้ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ระหว่างที่เตรียมอุปกรณ์อยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงแมวร้อง แต่ผมหยุดมือไม่ได้ต้องดับไฟก่อนแล้วจึงจะหาแมวได้

ไฟไหม้ครั้งนี้ลุกลามใหญ่โตมาก เราจึงมีหน่วยงานอื่นๆมาช่วยสนับสนุนด้วยทั้งฝ่ายตะขอเกี่ยวและบันได

เราได้รับแจ้งว่าทุกคนในอาคารนี้ออกมาได้โดยปลอดภัยแล้ว ผมเองก็หวังเช่นนั้นเพราะที่ปั๊มมีแต่เปลวไฟเต็มไปหมดใครขืนเข้าไปกู้ภัยคง จะไม่รอดแน่ กว่าจะดับไฟได้ก็คงกินเวลานานมาก และต้องใช้กำลังคนมากมาย ถึงตอนนี้มีเวลามองหาแล้วว่าเสียงแมวมาจากไหน ควันไฟยังพวยพุ่งออกมาจากตัวปั๊มเต็มไปหมด ผมมองอะไรไม่ค่อยเห็น ได้แต่เดินตามเสียงแมวร้องไปเรื่อยๆ จนถึงบริเวณบาทวิถีห่างจากหน้าปั๊มราวๆ 5 ฟุตเห็นจะได้

ก็เห็นลูกแมวตัวเล็กๆ ท่าทางอกสั่นขวัญแขวนสามตัวกอดกันกลมส่งเสียงร้องกันระงมอยู่ พอมองไปรอบๆผมก็เจออีกสองตัวอยู่บนถนนตัวหนึ่งส่วนอีกตัวหนึ่งอยู่อีกฝั่งถนนหนึง แมวพวกนี้คงจะติดอยู่ในอาคารเป็นแน่เพราะขนมันถูกไฟลนเสียจนโกร๋น

ผมตะโกนขอลังสักใบและมีนักมุงหามาให้ใบหนี่ง ผมจับลูกแมวทั้งห้าตัวใส่ในลังและอุ้มลังไปพักไว้หน้าระเบียงบ้านหลังหนึ่งแถวนั้น ผมมองหาแม่แมว สังหรณ์ว่าแม่แมวคงจะเข้าไปในปั๊มที่กำลังไฟไหม้ และทยอยคาบลูกออกมาวางไว้บนบาทวิถีทีละตัว

ลองคิดดูก็แล้วกันว่าต้องวิ่งเข้าไปในกองไฟที่ลุกโชติช่วงถึงห้าครั้งห้าคราว จากนั้นก็ต้องพยายามให้ลูกแมวไปอยู่อีกฝั่งไกลอาคารออกไปทีละตัวเช่นกัน แต่แม่แมวดูเหมือนจะยังขนตัวลูกๆ ออกมาไม่หมด
เอ๊ะ ....แล้วแม่แมวไปอยู่เสียทีไหน

ตำรวจคนหนึ่งชี้บอกผมว่าเห็นแม่แมวเข้าไปที่ร้านตรงที่ผมเจอลูกแมวสองตัวสุดท้าย แม่แมวอยู่ที่นั่นจริงๆ มันนอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด แผลไฟไหม้ดูสาหัส ตาเป็นแผลพองจนลืมไม่ขึ้น อุ้งเท้าดำเพราะถูกไฟลน ขนถูกไฟลามเสียจนเห็นหนัง บางแห่งจะเห็นเนื้อแดงเหวอะหวะ ตัวอ่อนปวกเปียกจนเคลื่อนไหวอะไรไม่ได้



บาดแผลจากการถูกไฟลวกเต็มตัวสการ์เล็ตไปหมด


ผมเดินไปหามันช้าๆค่อยๆพูดกับมันเบาๆ มันคงจะเป็นแมวป่า
ผมไม่อยากให้มันตกใจ เมื่อผมอุ้มมันขึ้นมา แม่แมวร้องอย่างเจ็บปวดกลิ่นขนและเนื้อหนังของมันส่งกลิ่นเหม็นไหม้

มันไม่กระดุกกระดิกแต่พยายามจะลืมตามองดูผม แต่ลืมไม่ขึ้น ดูมันเหนื่อยอ่อนเต็มประดา ได้แต่ซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนผม ผมตื้นตันน้ำตาคลอหน่วยเมื่อรู้สึกว่าแม่แมวไม่กลัวผม ไว้ใจผม ผมตั้งใจจะช่วยชีวิตแม่แมวผู้กล้าหาญและลูกทั้งห้าตัวของมัน ชีวิตของพวกมันขึ้นอยู่กับผม ผมค่อยๆวางแม่แมวลงในลังรวมกับลูกๆของมัน

แม่แมวตาบอดยังอุตส่าห์ใช้จมูกแตะลูกแมวแต่ละตัวจนทั่วเพื่อให้แน่ใจว่าทุกตัวปลอดภัย
มันคงเบาใจที่ลูกของมันอยู่ครบทุกตัวแม้ตัวมันเองจะเจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม แมวทั้งหมดต้องได้รับการรักษาโดยด่วน ผมนึกถึงบ้านสงเคราะห์สัตว์แห่งหนึ่งชื่อ "สันติบาตสัตว์นอร์ทชอร์"

ผมเคยนำสุนัขที่ถูกไฟไหม้อาการสาหัสไปให้ที่นั่นรักษษแผลเมื่อสิบเอ็ดปีก่อน องค์การนี้ช่วยได้แน่ ผมโทรศัพท์ไปแจ้งให้ทราบล่วงหน้าว่ากำลังพาแม่แมวและลูกแมวที่ถูกไฟลวกอาการ สาหัสไปให้รักษา ผมไม่มีเวลาเปลี่ยนเสื้อผ้ายังสวมชุดดับเพลิงที่มีกลิ่นคราบควันไฟอยู่เต็ม แล้วบึ่งรถบรรทุกของผมไปโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อไปถึงก็เห็นสัตว์แพทย์และเจ้าหน้าที่สองชุดเตรียมตัวรับแมวอยู่แล้วที่ ลานจอดรถ พวกเขารีบนำแมวทั้งหมดเข้าไปในห้องพยาบาล ทีมหนึ่งรักษาแม่แมวอยู่บนโต๊ะตัวหนึ่งและอีกทีมหนึ่งดูแลลูกแมวอยู่บนโต๊ะอีกตัวหนึ่ง

ผมรู้สึกเหน็ดเหนื่อยเป็นกำลังจากการดับไฟและพยายามไม่เข้าไปเกะกะในห้องพยาบาล ผมไม่ค่อยหวังเท่าใดว่าแมวเหล่านี้จะรอดชีวิต แต่ถึงอย่างไรก็ทิ้งมันไม่ลงจริงๆ หลังจากรออยู่ครู่ใหญ่ สัตว์แพทย์ก็บอกผมว่า เขาต้องเฝ้าอาการแม่แมวและลูกของมันทั้งคืน และไม่มั่นใจว่าตัวแม่จะรอดหรือเปล่า



ผมและเหล่าลูกๆที่รอดชีวิตจากไฟนรกโดยแม่แมวผู้กล้าหาญ

วันรุ่งขึ้นผมกลับไปอีก รอแล้วรอเล่ากำลังจะเลิกล้มความหวัง สัตว์แพทย์ก็เดินเข้ามาบอกข่าวดีกับผมว่า ลูกแมวรอดแล้ว

"แล้วแม่แมวล่ะ" ผมกลัวคำตอบเหลือเกิน "ยังบอกไม่ได้ครับ ต้องรอดูก่อน" ผมไปที่นั่นทุกวันเพื่อฟังอาการ

แต่ละวันก็ได้ยินแต่คำตอบซ้ำๆว่า "ต้องรอดูก่อน"
ประมาณหนึ่งสัปดาห์ให้หลังผมไปที่สถานสงเคราะห์อีกครั้งด้วยความหดหู่ใจ นึกในใจว่าถ้าแม่แมวไม่ตาย ป่านนี้ก็รู้แล้วละว่าจะมีอาการร่อแร่อย่างนี้ไปอีกนานเท่าไร

ทันทีที่ผมเดินเข้าไป
สัตว์แพทย์ก็ยิ้มรับและยกนิ้วให้สัญญาณผมว่า
แม่แมวไม่เพียงแต่รอดพ้นจากขีดอันตรายเท่านั้น
อีกหน่อยมันจะมองเห็นได้อีกด้วย



โถๆๆ น่าสงสารจริงๆเลย


เอาละในเมื่อแม่แมวไม่ตายอุตส่าห์รอดมาได้ก็ต้องตั้งชื่อกันเสียหน่อย

เจ้าหน้าที่คนหนึ่งตั้งชื่อว่า "สการ์เล็ต" แปลว่าแดงก่ำเพราะผิวที่แดงเถือกของมัน
ผมสะเทือนใจที่ได้เห็นแม่แมวเจอหน้าลูกๆอีกครั้ง เพราะรู้ดีว่ามันต้องกัดฟันต่อสู้ขนาดไหนกว่าจะรอดมาได้

แล้วทายซิว่าสิ่งแรกที่แม่แมวทำคืออะไร
มันนับลูกอีกครั้งโดยเอาจมูกแตะลูกทีละตัวๆ
เพื่อให้มั่นใจว่าลูกๆอยู่กันปลอดภัยโดยครบถ้วน
มันยอมเสี่ยงภัยเพื่อลูก ไม่ใช่ครั้งดียว
แต่ถึงห้าครั้งและได้ผลด้วยลูกๆของมันรอดชีวิตทั้งหมด


ไหนๆ อยู่กันครบมั้ยนะลูกจ๋า...

อาชีพอย่างผมนี่มีโอกาสได้เห็นวีรกรรมที่กล้าหาญอยู่ทุกวัน
แต่ที่แม่แมวพิสูจน์ให้เห็นในวันนั้นเป็นสุดยอดวีรกรรม
เป็นวีรกรรมที่มาจากความรักของแม่โดยแท้!
มีหลายๆสายตาที่ได้มองต่อกันเป็นทอดๆดังนี้
สายตา(แม้ว่าจะเกือบบอด)และจมูกของแม่แมวที่พยายามมองและสัมผัสไปยังลูกๆ
นักดับเพลิงมองไปยังแม่แมวกับลูกๆและพยายามช่วยเหลือจนสำเร็จ



ลูกๆ 5 ตัว สีไม่เหมือนกันเลย แต่น่ารักทุกกกตัววว

ปัจจุบันสการ์เล็ตและลูกๆ มีคนรับไปดูแลแล้วเรียบร้อย ได้รับความรักความอบอุ่นจากเจ้าของที่แสนดี คือคุณคาเรน เวลเลน ( Karen Wellen ) 

     

ดูเธอรักสการ์เล็ตม๊ากมาก ถือว่าโชคดีสุดๆเลย


สายตาและความคิดอ่านของท่าน......
ความรักมีอยู่ในโลกใบนี้เสมอ
สิ่งต่างๆยังคงกำเนิดมาจากความรักทั้งสิ้น
แม้โลกนี้ที่เป็นไปอยู่นี้จะไม่สวยงามอย่างที่คิด
แต่โลกก็อยู่ได้ด้วยคนที่มีน้ำใจเมตตา
ทำให้โลกใบนี้ยังคงเป็นโลกอยู่เสมอ
จากเพื่อนคนหนึ่ง.............. ณ นครนิวยอร์ค





Flag Counter

Flag Counter






โพสต์แลกเปลี่ยนความรู้กันได้ที่นี่เลยครับ โดยใช้ Facebook Username ของคุณ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น